“vignette” มุมมืด

. 27/8/52
  • Agregar a Technorati
  • Agregar a Del.icio.us
  • Agregar a DiggIt!
  • Agregar a Yahoo!
  • Agregar a Google
  • Agregar a Meneame
  • Agregar a Furl
  • Agregar a Reddit
  • Agregar a Magnolia
  • Agregar a Blinklist
  • Agregar a Blogmarks


บทความนี้เป็นบทความเกี่ยวกับภาพถ่ายและ [กำลังจะ]
ถูกตีพิมพ์ลงนิตยสารเล่มแรกของเรา ที่มีชื่อว่า "Black change"
ถูกจัดทำขึ้นตามหลักสูตรการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารศาสตร์
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปีการศึกษา 2552





“vignette”
[เพราะอยู่] มุม [ฉันจึง] มืด




Vignette หรือ วิน’เย็ท
หรืออีกชื่อที่เรียกเพี้ยนไปจนติดปากว่า วิกเนต เป็นปรากฎการณ์
Clear in
the center and fade off at the edges
หมายถึง
รูปที่ชัดตรงกลางแต่ขอบๆภาพไม่ชัด คือ มีขอบดำหรือเบลอตรงมุมของภาพแต่ละมุม




แล้วอะไรทำให้เกิดวิกเนต? วิกเนตเกิดจากอะไร?


มีหลายสาเหตุค่ะ เช่น การทำงานของรูรับแสงไวความสามารถที่จะรับแสงได้ (Optical vignetting)
ความกว้างของเลนส์กว้างจนถ่ายติดอุปกรณ์อย่าง Filter หรือ Hood ซึ่งอยู่หน้าเลนส์
(Mechanical vignetting) และแสงตกกระทบฟิล์มไม่สม่ำเสมอ ตกตรงกลางมากกว่าตรงมุม
ทำให้ภาพชัดตรงแค่ตรงกลาง (Natural vignetting) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า light falloff โดยจะเห็นได้ง่ายที่สุดจากการถ่ายท้องฟ้าหรือพื้นที่สว่าง





ในขณะที่ช่างภาพมืออาชีพทั้งหลายให้ความสนใจในการเลือกยี่ห้อกล้อง เลือกระยะเลนส์ ให้ความสำคัญในการวัดแสง
และกฎทฤษฎีในการถ่ายภาพต่างๆ เพื่อให้ได้ภาพที่มีความคมชัดสวยงามตามที่ต้องการ ไร้จุดบกพร่อง
เจ้าวิกเนตดูจะสร้างปัญหาให้มากพอสมควร ช่างภาพต้องคิดหาวิธีเพื่อที่จะเอาสิ่งผิดปกตินี้ออกจากภาพของตน



แต่ใช่ว่ามันจะเป็นที่สิ่งที่ไม่ต้องการเสมอไป ในทางกลับกับเจ้าวิกเนตกลับเป็นที่ต้องการของผู้ที่เล่น “LOMO”
และถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ บางคนหาวิธีให้ภาพของตนติดวิกเนตให้ได้มากที่สุดเท่าที่จำทำได้






ฉันเองเริ่มหลงรักในวิกเนตและเล่นโลโม่ครั้งแรกเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ภายหลังจากที่เรียนการถ่ายภาพตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัย ฉันรู้สึกว่ากล้องถ่ายรูปเป็นกล้องที่เข้าใจยากเสียเหลือเกิน ต้องปรับนู่น ปรับนี่ ถ่ายยังไงก็ไม่สวย หลังจากนั้นฉันได้เห็นภาพสไตล์โลโม่ เรียกได้ว่า ฉันรักรักมันตั้งแต่แรกเห็นเลยล่ะ ฉันศึกษาอยู่นาน และคิดว่านี่แหล่ะ
คือสิ่งที่ฉันตามหา (ออกจะเว่อร์ไปนิดนึง ^^) กล้องตัวแรกที่ฉันมีเป็นกล้องฟิชอาย1 ได้มาโดยบังเอิญ ฟิล์มม้วนแรกที่ใช้ คือฟิล์มสไลด์ของ Kodax ล้าง Cross Process ออกมาแล้วเขียวไปทั้งภาพ แต่ด้วยความเพี้ยนนี้แหล่ะทำให้ฉันหลงรักมัน
ทุกวันนี้กล้องที่ฉันใช้บ่อยที่สุด ใช้ถ่ายเยอะที่สุดก็คือ Lc-a+ นับว่าเป็น King of LOMO เลยก็ว่าได้ ด้วยการผลิตที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และความแตกต่างของม่านชัตเตอร์ที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน คล้ายใบมีดสลับกัน โดยกล้องทั่วไปม่านชัตเตอร์จะเป็นกลีบ ทำให้เกิดบางส่วนของภาพที่รับแสงได้ไม่หมด จึงเกิดเป็นวิกเนตขึ้น เคยมีคนมาถามฉันว่า “ภาพนี้ถ่ายยังไง? ใช้เทคนิคอะไร”
พูดตามตรงฉันเองก็ไม่ได้ตั้งจะว่ามันจะให้ออกเป็นแบบนี้หรือแบบไหน ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ว่ารูปที่ถ่ายจะติดวิกเนตหรือเปล่า เพราะฉันรู้และเข้าใจดีว่า “นี่แหล่ะคือเสน่ห์ของวิกเนตและโลโม่” คือไม่ต้องคาดหวัง ไม่ต้องคิดมาก มันจะสวยหรือไม่สวย อยู่ที่จะมองภาพนั้นในด้านไหนซะมากกว่า




ปัจจุบัน มีช่างภาพดิจิตอลหลายต่อหลายคน พยายามที่จะใส่วิกเนตเข้าไปในภาพ ด้วยการใส่ filter หรือ Actions ในโปรแกรม
Photoshop และเรียกภาพของตัวเองว่า “ดิจิโม่” ฉันกลับคิดว่า เป็นการดูถูกความเป็นวิกเนตซะเหลือเกิน
อารมณ์ที่ถ่ายภาพออกมากับการที่ตกแต่งภาพออกมา มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถึงแม้ว่า “ดิจิโม่” ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับวงการการถ่ายภาพก็เถอะ ฉันแค่เสียดายแทนพวกเขาเหล่านั้นที่ไม่มีโอกาสได้มีความรู้สึกมีความสุขตอนถ่ายภาพและตอนที่ล้างฟิล์มออกมาแล้วนึกย้อนไปถึง ณ เวลาที่ถ่ายนั้นๆ


*** ขอขอบพระคุณกับพี่ๆชาวโลโม่ทุกท่านที่ช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับวิกเน็ตค่ะ ^___^




ปวีณา เอิบโชคชัย
27 สิงหาคม 2552

2 ความคิดเห็น:

G27 กล่าวว่า...

ก็มีความคิดดีๆ เหมือนกันนิ่

นึกว่าจะเก่งแต่พกกล้องนะไอน้อง :)

P.paveena กล่าวว่า...

อีกนิดดด เหมือนจะชมแล้ว 55555